เมื่อลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว บนท้องถนนและบ้านแฟนบอลรอบแอนฟิลด์ก็เริ่มเตรียมการจัดป้ายแบนเนอร์ และผ้าพันคอแขวนจากหน้าต่างพร้อมสำหรับงานปาร์ตี้ ขณะเดียวกัน ในเวลานี้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสอย่างมากที่จะคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกของสโมสรในรอบ 30 ปี ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะอยู่ในมือของพวกเขา แต่สิ่งต่างๆ ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการใดๆได้ เนื่องจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษออกคำสั่งระงับการแข่งขันฟุตบอลลีกทุกระดับเป็นการชั่วคราวจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก
ในทางทฤษฎีแล้ว นี่น่าจะเป็นสัปดาห์ของลิเวอร์พูล ที่จะต้องบุกไปเยือน เอฟเวอร์ตัน ที่สนามกูดิสัน ปาร์ค ในศึกเมอร์ซีย์ ดาร์บี้ แมตช์ ตามด้วยการเปิดรังแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ ซึ่งหากทีมของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน สามารถเก็บชัยชนะได้ทั้ง 2 เกมนั้น มันจะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกทันทีอย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา รอบสนามแอนฟิลด์ เต็มไปด้วยความเงียบงันเหมือนอนุสาวรีย์ของความทุกข์ และความไม่แน่นอนของเมืองลิเวอร์พูล เมื่อวันที่โคโรน่าไวรัสแพร่ระบาดไปทั่วโลก และมีข่าวลือต่างๆออกมามากมาย
ห่างออกไปประมาณหนึ่งไมล์ที่ เมลวู้ด สนามฝึกซ้อมของ ลิเวอร์พูล วิธีในการดูแลตัวเองนั้น ได้รับการสะท้อนออกมาลูกทีมของ คล็อปป์ ซึ่งทำเหมือนกันกับนักฟุตบอลหลายคนทั่วประเทศ โดยบรรดาแข้งถูกบอกให้เก็บตัว, งดกิจกรรมการรวมกลุ่ม, รับทานอาหารที่เหมาะ และวางแผนการออกกำลังกายที่บ้านในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าอย่างน้อย ปกติ ในวันธรรมดาสาวก “เดอะ ค็อป” จะมารวมตัวกันที่หน้าประตูสนามฝึกซ้อม เมลวู้ด เพื่อรอดูผู้เล่นมา และกลับจากการซ้อม และมันเป็นธรรมเนียบปฏิบัติไปแล้วสำหรับแฟนบอล ลิเวอร์พูล หลายๆคน ที่จะมาชมขวัญใจของพวกเขา
สมัยเด็กๆ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์–อาร์โนลด์ แบ็คขวาดาวรุ่งชาวอังกฤษของลิเวอร์พูล ก็เคยทำเช่นเดียวกันกับแฟนบอลคนอื่นๆ โดยดาวเตะวัย 21 ปี เคยยืนบนถึงน้ำเพื่อมองข้ามรั้วสนามฝึกซ้อม เมลวู้ด เพื่อดูแข้งฝึกซ้อม ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สนามฝึกซ้อม เมลวู้ด ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ประตูไม้ขนาดใหญ่ปิดอย่างแน่นหนา และในเมืองนี้เกิดการถกเถียงกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับการอ้างสิทธิ์ของลิเวอร์พูล ในการคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปี ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้สึกว่า มันสำคัญมากมาเพียงใด
ทีมของ คล็อปป์ มีสิทธิโดยชอบธรรมในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก พวกเขามีคแนนทิ้งห่างทีมอันดับ 2 อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากถึง 25 แต้ม แม้แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวสเปนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่แสดงท่าทีขัดข้องที่จะยกแชมป์ให้กับลิเวอร์พูล แต่ทั้งนี้ มันขึ้นอยู่ว่าผู้บริการของพรีเมียร์ลีกจะดำเนินการต่อไปอย่างไรกับเกมที่เหลืออีก 9 นัดในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล อาจมองสะท้อนไปที่การแข่งขันฟุตบอลลีกของประเทศอื่นๆเมื่อถูกระงับด้วยอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด โดยย้อนกลับไปเมื่อปีก่อนที่ชิลีมีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นจนไม่สามารถแข่งขันต่อไปได้นั้น ลีกจึงประกาศให้ทีมอันดับ 1 คว้าแชมป์ไปครอง และย้อนกลับไปที่ยูโกสลาเวียเมื่อ 21 ปีที่แล้ว เกิดเหตุสงครามจนไม่สามารถแข่งขันต่อไปได้พวกเขาก็ประกาศให้ทีมอันดับ 1 คว้าแชมป์ไปครองเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า ในอังกฤษมันเป็นเรื่องใหญ่ที่แตกต่างออกไป และมีความเห็นเป็น 2 ฝ่าย หากสั่งยุติฤดูกาล และประกาศให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ทันทีทั้งที่ลิเวอร์พูลต้องการอีก 6 คะแนน จาก 9 เกมที่เหลือ ขณะเดียวกันธุรกิจในร้านขายของของสโมสรต่างๆในเมืองผู้ดีนั้น ต้องเจอกับความยากลำบาก ในขณะที่การจองทัวร์สนามกีฬาแอนฟิลด์ต้องถูกยกเลิกทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตั้งใจจะมาเยี่ยมชม ลิเวอร์พูล
เมื่อนึกถึงดาวเด่นของ ลิเวอร์พูล แฟนบอลคนหนึ่งต่อสู้กับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดยระบุว่า “ผมรอ 2-3 สัปดาห์เพื่อซื้อเสื้อทีมชุดใหม่ และพิมพ์คำว่า Champions ที่ด้านหลังเสื้อ แต่ตอนนี้ผมต้องใส่ชื่อของ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ ไปแทนแล้ว”
สนามฟุตบอลมักเป็นสถานที่แปลกๆ เสมอเมื่อไม่ใช่วันแข่งขัน ซึ่งมันจะค่อนข้างเงียบเหงาและไร้ผู้คน เช่นเดียวกับมหาวิหารที่มีประตูปิดอยู่ ที่ ลิเวอร์พูล เมื่อวานนี้มันทำหน้าที่เพียงเพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เป็นกับสิ่งที่อาจเป็นไปโดยสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ กองหลังทีมชาติฮอลแลนด์ ของลิเวอร์พูล ก็ออกมาแสดงความกังวลว่า เขารู้สึกเสียใจมากถ้าต้องฉลองแชมป์ในสนามที่ว่างเปล่าปราศจากแฟนบอลลิเวอร์พูล