5 สิ่งที่แฟนปืนต้องรู้หลังแพ้แมนซิตี้

อาร์เซนอลบุกไปเยือนเรือใบสีฟ้าถึงถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยมส์ และกลับออกมาด้วยความพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 3-1 พวกเขาเลือกที่จะเล่นรับลึก รอทำเกมสวนกลับแต่กลับไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะสร้างอันตรายใดๆ ให้กับแผงหลังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นี่คือ 5 สิ่งที่แฟนปืนต้องรู้หลังจากต้องพบกับฝันร้ายที่เมืองแมนเชสเตอร์

5. ลิชสไตเนอร์หมดแล้วจริงๆ

เฮคตอร์ เบเยริน ที่ต้นฤดูกาลแฟนปืนเสียงแตกเป็นสองฝั่งถึงคุณภาพของแบ็คขวาสแปนิชคนนี้ หลายๆ คนเสนอให้ สเตฟาน ลิชสไตเนอร์ ที่มีประสบการณ์โชกโชนกับยูเวนตุส ขึ้นมาเป็นตัวจริงแทนเสียยังดีกว่า กลับกลายเป็นว่าในชั่วโมงที่แบ็คขวาแฟชั่นนิสต้าได้รับบาดเจ็บปิดเทอมยาว ทุกคนแทบจะเห็นเป็นอย่างเดียวกันว่า ลิชสไตเนอร์กลายเป็นดีลกองหลังที่ยอดแย่ที่สุดขึ้นทำเนียบเดียวกับทั้ง ปาสกาล ซีก็อง เซบาสเตียน สกิลลาชี่ เลยด้วยซ้ำ ด้วยอายุอานามที่ปาเข้าไป 35 ปี น้าลิชไม่สามารถจัดการกับความเร็วของราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้เลย แถมยังมีส่วนในการเสียประตูอีกสองลูกให้กับ กุน อเกวโร่ อีกด้วย สิ้นสุดฤดูกาลนี้คงต้องได้โบกมือบายๆ ลิชสไตเนอร์กันแล้วล่ะ

4. ท็อปโฟร์ไม่ได้วัดกันที่เกมนี้

เป้าหมายที่สำคัญที่สุดในฤดูกาลนี้ของอาร์เซนอล และอูไน เอเมรี่ คือ การกลับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่ง ท็อปโฟร์เพื่อคว้าโควตาไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้ง แม้ความพ่ายแพ้ที่มีต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะทำให้พวกเขาต้องถอยลงไปอยู่ในอันดับ 6 ของตาราง และโดนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังฟอร์มแรงแซงขึ้นไป แต่ว่ากันตามจริงแล้วจะมีสักกี่ทีมกันที่สามารถต่อกรกับลูกทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าในบ้านของพวกเขา? เกมพรีเมียร์ลีกยังเหลืออีกหลายนัด สิ่งที่ปืนใหญ่ต้องพยายามทำให้ได้คือการเก็บแต้มจากทีมที่เล็กกว่าพวกเขาให้ได้ และลุ้นเอาชนะศึกใหญ่ที่พวกเขาต้องพบกับทั้งสเปอร์ส และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช่ครับ พวกเขาเหลือเกมใหญ่อีกแค่ 2 นัดเท่านั้น!

3. เรือใบคือมาตรฐานความสำเร็จ

อูไน เอเมรี่ ตอบรับข้อตกลงคุมทีมอาร์เซนอลด้วยเงื่อนไขที่ห่างไกลจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างมาก ทั้งเรื่องงบประมาณในตลาดซื้อขาย ความแตกต่างของผู้เล่นเดิมที่มีอยู่ แต่ทั้งสองมีเป้าหมายเดียวกัน คือพัฒนาทีม และเอาชนะการแข่งขันฟุตบอลให้ได้ แม้เอเมรี่จะต้องพบเจอกับเสียงวิจารณ์มากมายจากข้อผิดพลาดของทีม การจัดตัวผู้เล่น รวมไปถึงแผนการเล่น แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกคุณกำลังแข่งขันกับทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ทีมอย่างซิตี้นี่แหละคือทีมที่ปืนใหญ่ต้องพบเจอในฤดูกาลต่อๆ ไป และแน่นอนหากพวกเขาอยากขึ้นมาท้าชิง (และคว้าแชมป์) พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ปืนใหญ่ต้องมีความทะเยอทะยานมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสนับสนุนผู้จัดการทีม งบประมาณซื้อขาย รวมไปถึงประธานสโมสรที่มีใจรักฟุตบอลจริงๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม ต้องให้เครดิตกับพวกเขา พวกเขาสร้างมาตรฐานไว้ให้พรีเมียร์ลีก ก็เหลือแต่สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอลจะพยายามพาตัวเองไปให้ถึงมาตรฐานนั้นหรือเปล่า ?

2. เก็นดูซี่เฉิดฉาย

เกมดังกล่าวในแผงมิดฟิลด์เป็นการจับคู่กันระหว่าง ลูคัส ตอร์เรร่า วัย 22 ปี กับ มัตเตโอ เก็นดูซี่ วัย 19 ปี ทั้งคู่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งเวลาแรก เจ้าหนูเก็นดูโดดเด่นที่สุดในกลุ่มผู้เล่นของอาร์เซน่อลทั้งๆ ที่ต้องดวลกับสองมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดในโลกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็นดูซี่แย่งบอลมาครองได้ 6 ครั้ง และจ่ายบอลเข้าเป้า 100% ในความพยายามทั้ง 22 ครั้ง แม้จะถูกเอเมรี่สั่งมาให้ทำหน้าที่ที่คนส่วนใหญ่ “ไม่เห็นคุณค่า” แม้จะเป็นงานช้างสำหรับเขา แต่เจ้าหนูหัวฟูคนนี้กลับทำมันออกมาได้อย่างน่าชื่นชม และแน่นอนด้วยโอกาสในการลงสนามบัญชาการเกมตรงกลางอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้เขากลายเป็นมิดฟิลด์แถวหน้าของทีมในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย จงอย่าแปลกใจที่บรรดากูรู รวมถึงอดีตนักฟุตบอลหลายๆ คนออกมากล่าวชื่นชมฝีมือการเล่นของเจ้าหนูคนนี้ เพราะว่า มัตเตโอ เก็นดูซี่ คือ ของจริง!

1. เอเมรี่ทำพลาดมหันต์

อูไน เอเมรี่เริ่มเกมด้วยแผนการเล่น 4-4-2 สั่งให้ลูกทีมรับลึก บอกให้ ลากาแซตต์ และโอบาเมยัง ที่ยืนหน้าคู่ ถอยมายืนจนเกือบเป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ซึ่งนั่นทำให้เกิดช่องโหว่ในช่วงกลางสนามและในตำแหน่งฟูลแบ็ค การโอเวอร์แลปของ ดาบิด ซิลบา ในทางกราบซ้าย และเควิน เดอ บรอยน์ ในกราบขวา ทำลายเกมรับอาร์เซนอลเสียจนหมดสิ้น ทั้งๆ ที่อูไน เอเมรี่ ควรจะไตร่ตรองมาเป็นอย่างดีว่าการสอดขึ้นมาของทั้ง เดอ บรอยน์ และซิลบา คือ แผนการเล่นหลักของซิตี้ หากลูกทีมของเขาจะต้องทำอะไรอย่างหนึ่งกับเกมรุกของเป๊ป กวาร์ดิโอลา สิ่งนั้นคือหยุดการเติมเกมของพวกเขา ทั้งคู่คือหัวใจสำคัญของแมนซิตี้ แต่อูไน เอเมรี่กลับไม่ทำอะไรเลย แม้ว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะเป็นทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก แต่มันไม่ใช่ข้ออ้างในการวางแผนการเล่นที่ผิดพลาด และเอเมรี่ต้องยอมรับมัน